

นางสาวเอ๋ เปิดเผยว่า ก่อนที่ตนจะเดินทางกลับประเทศไทย ตนต้องไปแจ้งความประสงค์กับทางการของประเทศเกาหลีใต้ จากนั้นจะทำการตรวจเพื่อหา CO VID ตามมาตรฐาน เมื่อผลการตรวจไม่มีการพบ ทางการเกาหลีถึงจะอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย ก็มีการตรวจหา CO VID อีกครั้ง จึงจะสามารถเดินทางกลับบ้านได้ ในส่วนของตน ได้มีการเตรียมการสำหรับการเดินทางและให้ทางบ้านจัดบ้านอีกหลังไว้เพื่อกักตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะก่อนหน้าที่อาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ มีการให้ความรู้และแจ้งเตือนในการปฏิบัติตัวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ตนเตรียมการได้ค่อนข้างดี และไม่มีปัญหาเกิดขึ้น รวมทั้งตนเองสมัครใจที่จะกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เพื่อแสดงให้คนในชุมชนและผู้ที่อยู่ใกล้ชิดได้เกิดความสบายใจ

นางสาว เอ๋ กล่าวอีกว่า เบื้องต้น ยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ติดต่อ หรือเข้ามาดูแลแต่อย่างใด และขณะนี้ตนเริ่มมีปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย เพราะที่มีอยู่ใกล้จะหมดและหาซื้อไม่ได้ ตนจึงอยากขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานในพื้นที่ หากสามารถนำมามอบให้ได้ก็จะเป็นการดีเป็นอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน ที่ อ วิเชียรบุรี จ เพชรบูรณ์ ยดร ภูมินทร์ คำหนัก สาธารณสุขอำเภอพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล ได้ออกติดตามเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในพื้นที่ ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 3 ตำบลบึงกระจับ อำเภอวิเชียรบุรี

หลังจากเจ้าหน้าที่ทราบ จากการโพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊กของผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ก็ได้มีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอน และประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เข้าตรวจสอบอาการในเบื้องต้น พบว่าแข็งแรงดี จึงแนะนำให้กักตัวเองอยู่ภายในบ้าน มอบหน้ากากอนามัยพร้อมคำแนะนำในการปฏิบัติตัว หลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่มาติดตามและรายงานอาการจนกว่าจะครบกำหนด 14 วัน
