
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ร่วมกันเปิดเผยถึงมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 2

มาตรการเสริมสภาพคล่องดังกล่าว
1. รัฐบาลจะให้เงินสนับสนุน ลูกจ้างที่อยู่นอกระบบประกันสังคม คนละ 5 พันบาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ลงทะเบียนทาง www. เราไม่ทิ้งกัน . Com ได้รับเงินเยียวยา และรับเงินตรงเข้าพร้อมเพย์ ถ้าไม่มีใส่บัญชีธนาคาร หรือที่ธนาคาร ออมสิน ธ.ก.ส. และกรุงไทย ขอให้ประชาชนลงทะเบียนในเว็บฯก่อนเพื่อป้องกันการเดินทางมารวมตัวที่ธนาคาร

3.ให้สินเชื่อพิเศษ 5 หมื่นบาทต่อราย วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.35 ต่อเดือน

5 ให้ยืดภาษีเงินได้นิติบุคคล ภงด.50 ถึง 31 ส.ค.63 และ ภงด.51 ถึง 30 ก.ย.63
6 หักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น

8 การฝึกอบรมให้มีเงินใช้
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) จะเป็นผู้รับลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ เป้าหมายรวมทั้งสิ้น 3 ล้านคน โดยการสนับสนุนเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (เม.ย. ถึง มิ.ย2563) ผ่านการลงทะเบียนแสดงความจํานงตรวจสอบคุณสมบัติและการโอนเงินผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น พร้อมเพย์ตามเลขบัตรประจําตัวประชาชน โอนเข้าบัญชีธนาคาร กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ส่วนวิธีการขอรับความช่วยเหลือจะเป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกําหนด