เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา กรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ค “บัญชา เตชนราฤทธิ์” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกัน โดยชายหนุ่มคนหนึ่งได้ใช้หมวกกันน็อกฟาดใส่ลุงขับแท็กซี่ไม่ยั้งจนลุงล้มลง ก่อนมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยห้าม เหตุเกิดบนถนนกัลปพฤกษ์ สี่แยกไฟแดงบางพฤกษ์
หลังจากเกิดเหตุ ต่างฝ่ายต่างเดินทางเข้าแจ้งความที่สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีกับอีกฝ่าย โดยหนุ่มขับจยย. แจ้งความลุงแท็กซี่ที่ขับรถชน ส่วนลุงแท็กซี่แจ้งความจยย.ที่ทำร้ายร่างกาย ก่อนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล พยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า
คนขี่รถจยย.มาพร้อมกับแฟนสาว ถูกแท็กซี่ดังกล่าวเฉี่ยวชนบริเวณแยกกำนันแม้น ถ.กัลปพฤกษ์ มุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก คนขี่จยย.จึงจอดให้แฟนลงข้างทาง ก่อนขี่รถตามแท็กซี่ เมื่อมาถึงบริเวณแยกบางพฤกษ์ ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ทั้งคู่ได้ลงมามีปากเสียงกัน
โดยลุงขับแท็กซี่ได้ถือไขควงลงมาด้วย ซึ่งคนขี่จยย.เปิดฉากทำร้ายลุงด้วยการต่อยและใช้หมวกกันน็อกฟาดเข้าที่ใบหน้าและศีรษะหลายครั้ง จนลุงล้มลงเลือดอาบพร้อมแย่งไขควงจากมือลุงมาแล้วขว้างทิ้ง ซึ่งเลือดที่เห็นตรงปลายไขควงคือเลือดที่แผลของลุง
ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ระบุว่า คดีนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คดีทำร้ายร่างกายและคดีทางจราจร ซึ่งในส่วนของคดีทำร้ายร่างกายนั้น ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนจะทำการแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิด ในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” และในส่วนของคดีทางจารจร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กล้องวงจรปิดและพยานบุคคล เป็นต้น เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางคดีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ฝากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนน อย่าใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา เมื่อเกิดเหตุ ควรจะแจ้งจนท.ตำรวจ อย่าใช้กำลังตัดสิน เพราะไม่ว่าการกระทำใดการกระทำหนึ่งอาจส่งผลเสียแก่ตนหรือผู้อื่นได้ โดยนำหลักฐานด้วยการ ถ่ายภาพทะเบียนรถ ตำหนิรูปประพรรณ สี ยี่ห้อ รุ่น หรือหลักฐานอื่น ๆ มาแจ้งที่สถานีตำรวจพื้นที่รับผิดชอบ หรือแจ้งสายด่วน 191 ได้ ตลอด 24 ชม.