Thursday, May 28, 2020

เจอถ้ำที่ 4 ที่ซ่อนเสื้อน้องชมพู่ ผู้ต้องสงสัยรับเคยมา งานนี้คนร้ายไม่รอด

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญของคนทั้งประเทศ น้องชมพู่ หนูน้อยวัย 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กิโลเมตร กระทั่งวันที่ 18 พฤษภาคม 63 ผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ แต่ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย

ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้าย โดยได้ไปพบหลักฐานเพิ่มเติม คือ เสื้อลายพรางที่ถูกเผาทิ้งไว้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบรถแบกโฮของเล่น ประมาณ 200 ม.นั้น นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางตามคำทำนายหมอดูและพบว่ามีถ้ำคล้ายที่หมอธรรมตาทิพย์ทำนายอยู่จริง

ทีมข่าวเดินตามแล้วเส้นทางจากพัก 1 เป็นชั้นที่พบแหวนและสายเปลสีฟ้า จากนั้นเดินขึ้นไปสู่พัก 2 มุ่งหน้าไปจนถึงจุดที่เจอรถแบคโฮของเล่นและเสื้อลายพราง ด้วยการเดินลัดเลาะเส้นทางใหม่ที่ทีมข่าวไม่เคยเดินมาก่อน โดยเดินเลียบไปทางทิศตะวันออกเพื่อไปยังอ่างกบ (แนวทางน้ำบนเขา) ระหว่างทาง ต้องเดินเลาะแนวหิน ข้ามหน่อไม้ป่า จนกระทั่งไปถึงแนวของทางน้ำขนาดใหญ่ แนวนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของภู เป็นเส้นทางมุ่งสู่ยอดเขา

ทีมข่าว มุ่งตรงไปยังพักที่ 3 เป็นพักที่ไม่ได้เจอหลักฐานอะไร นายคล้าย อธิบายกับทีมข่าวว่า ข้อสังเกตหากเด็กเดินขึ้นมาสิ่งที่ต้องเจอระหว่างทาง คือ ต้นไม้ที่มีลักษณะเป็นหนาม สูงระดับตัวเด็กพอดี ซึ่งหากเด็กเดินเองโดยไม่มีใครอุ้มต้องมีแผลไปทั้งตัว
ชั้นที่ 1
ภาพ ทุบโต๊ะข่าว
ภาพ ทุบโต๊ะข่าว
ภาพ ทุบโต๊ะข่าว
ทีมข่าว เดินต่อไปยังพักที่ 4 แนวทางเดินขึ้นมีความสูงชันมาก เป็นแนวที่เจอกางเกงและรองเท้า ระดับความชันที่ทีมข่าววัดอยู่ที่ 44 องศา ชั้นนี้เป็นพักที่จะเป็นจุดพบศพของชมพู่และหลักฐานสำคัญอีก 2 อย่างคือ รองเท้าและกางเกง ความกว้างของพัก 200 ม.
ภาพ ทุบโต๊ะข่าว
จากนั้นทีมข่าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ พบว่าสูงชันมากขึ้น เพราะจะเป็นพักที่ 5 ลักษณะเป็นชั้นหิน ดิน ที่เดินตามแนวเขาไม่กว้างมาก แนวทางเดินกว้างอยู่ที่ 20-30 เซนติเมตร ระหว่างทางพบกับต้นงิ้ว ต้นที่ 1 ไม่สูงมาก จนกระทั่งไปสุดทางทิศตะวันออกของเขาภูเหล็กไฟ พบกับโพรงคล้ายถ้ำ เป็นถ้ำหิน ความกว้าง 5 เมตร สูง 3 เมตร ลึก 2 เมตร
โพรงนี้อยู่ได้ราว 10 คน มีกอหน่อไม้ป่า 1 กอ ด้านบนมีความคล้ายชะง่อนผา พบว่าบนผามีงิ้วป่าอยู่ 1 ต้น แต่ไม่พบหลุมน้ำ จุดนี้ชาวบ้านบอกว่าแทบจะไม่ได้มา แต่หากมาก็จะมาช่วงที่หาของป่า จุดนี้อยู่ห่างจากจุดพบศพชมพู่ ประมาณ 2 กม.
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ทีมข่าวเดินต่อไปยังถ้ำที่ 3 ซึ่งเป็นถ้ำที่มีลักษณะใกล้เคียงกับที่หมอธรรมตาทิพย์บอกมามากที่สุด และหมอธรรมชี้ให้กับทีมข่าวเดินขึ้นมามาสำรวจอีกรอบ
เมื่อทีมข่าวเข้าไปสำรวจด้านใน พบเป็นโพรงถ้ำลึก 30 ม. ส่วนใหญ่องค์ประกอบของถ้ำเป็นหิน ทีมข่าวลองพลิกหินดูมีหินก้อนเล็กและใหญ่ และมีทั้งที่พลิกได้และพลิกดูได้ ภายในลึกเข้าไปอีกเรื่อยๆ ยังไม่พบร่องรอยการเข้ามาพักอาศัยของคน ก่อนถึงสุดถ้ำต้องคลานลอดซอกหินเข้าไปด้านในที่มีหินเต็มไปหมด ทีมข่าวลองพลิกดูแต่ก็ไม่พบเสื้อผ้าของมนุษย์
ขณะที่ด้านในที่สุด จะเป็นปล่องอากาศ มีแสงรอดเข้ามาได้ ตอนแรกเข้าในว่าจะออกไปได้ แต่พบว่า เมื่อลองใช้ไม้ไผ่กระทุ้ง กลับไม่สามารถออกได้ ส่วนด้านหน้าถ้ำที่มีกองฟืนเก่า จนท.อุทยานระบุว่า จากการชำนาญเดินป่า น่าจะเป็นกองฟืนเก่า ราว 3 เดือนที่ผ่านมา
แต่สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้น วันนี้ทีมข่าวเจอไม้ป้อ ห่างไปจากปากถ้ำที่ 3 ประมาณ 10 ถึง 20 เมตร ซึ่งจะตรงที่สุดจากนิมิตของหมอธรรมตาทิพย์
โดยจนท.ตำรวจสอบถามทีมข่าว ถึงจุดภายในถ้ำที่ทีมข่าวไปสำรวจ เนื่องจาก ว่าเพิ่งทราบข้อมูลเรื่องถ้ำ จากนั้น ทีมข่าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ ลัดเลาะตามแนวหน้าผา อยู่บริเวณพักที่ 5 เฉียงไปทางทิศตะวันตก จากจุดพบศพชมพู่ ประมาณ 250 ม. ซึ่งเป็นถ้ำทางทิศใต้ของเขา นับเป็นถ้ำที่ 4 ที่ทีมข่าวเดินมาพบเจอ โดยถ้ำดังกล่าว ชาวบ้านระบุว่า เคยมีพระมาธุดงค์ และมักมีชาวบ้านขึ้นมาหาของป่าที่จุดนี้
ภาพ ทุบโต๊ะข่าว
ล่าสุด วันที่ 27 พฤษภาคม 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมาพูดคุยกับนายเข้ม (นามสมมติ) หมอธรรมหมู่บ้านกกตูม ที่วันนี้นายเข้ม ได้เข้ามาทำงานอยู่ที่สวนยางพารา ทีมข่าวจึงได้ตามมาสอบถามถึงกรณีที่ทีมข่าวขึ้นไปบนยอดภู โดยเปิดภาพให้นายเข้มดู และบอกข้อมูลสิ่งที่พบกับนายเข้ม และนายเข้มบอกว่าจุดดังกล่าวที่น่าจะใกล้เคียงที่สุดคือถ้ำที่ 3 ซึ่งคาดว่า จะมีเสื้อของน้องชมพู่ซ่อนอยู่
นายเข้ม เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ถ้ำที่ 3 ตรงกับที่ตนเห็น แต่ตนไม่ได้ระบุว่าจะต้องยึดตามต้นงิ้วอย่างเดียว อาจหมายถึงต้นไม้ที่มีอยู่ทั่วไปก็ได้ โดยลักษณะจุดดังกล่าวจะมีต้นป้อขนาบข้างจริง ลักษณะมีหลุมน้ำแอ่งน้ำอยู่จริง โดยให้ลองหาเสื้อตามหลุมตามแอ่ง และหาบริเวณรอบๆ เพราะบางทีเสื้ออาจจะไม่ได้ซ่อนอยู่ และตอนนี้ตนมองเห็นเพียงว่ามีบางอย่างปิดเอาไว้แต่ตนไม่รู้ว่าอะไร
นอกจากนี้ ขอให้ลองหาตามต้นไม้ด้วย หาต้นไม้ทุกต้นในละแวกถ้ำที่ 3 เพราะคนร้ายไม่ได้เอาเสื้อไปด้วยแน่นอน อาจจะอยู่ในโพรงต้นไม้ ให้ดูตามต้นไม้ตามโพรงไม้ได้เลย แต่หากไม่มีตามโพรงไม้ ให้หาตามซอกหินด้วยอาจจะเจอเสื้อก็ได้
อย่างไรก็ตาม หมอธรรมยังบอกอีกว่า ตนเห็นน้องชมพู่นั่งอยู่ในป่า ไม่มีการพูดอะไร แค่นั่งยิ้มเฉย ตนเคยฝันถึงน้องชมพู่ 1 ครั้ง จำวันที่ไม่ได้ว่าฝันวันไหน เห็นน้องชมพู่นั่งยกมือให้เท่านั้น
ทั้งนี้ นายเข้ม ได้นั่งสมาธิและเงียบไประหว่างสัมภาษณ์ พร้อมบอกว่า ตอนนี้น้องชมพู่มีวิญญาณแบ่งออก 2 ส่วน คือภูมิดีและ ภูมิไม่ดี ขณะนี้ภูมิดีมาอยู่ที่วัดแล้ว ส่วนภูมิที่ไม่ดียังอยู่บนเขา ตนพยายามมองว่าเป็นใครที่อยู่กับน้อง ก็เห็นเป็นลาง ๆ ว่าเป็นชายโบราณรูปร่างสูงใหญ่ นุ่งโจงกระเบนสีแดง ถอดเสื้อ ทำผมทรงแหวก ถือดาบยาวที่มือขวา ยืนอยู่คนเดียว และเฝ้าน้องชมพู่เอาไว้
อย่างไรก็ตาม หากอยากช่วยให้ภูมิที่ไม่ดีของน้องชมพู่หลุดพ้น และได้รับการปลดปล่อยจากชายดังกล่าว ต้องให้ครอบครัวเตรียมหัวหมู 1 หัว ธูป เทียน และดอกไม้ อย่างละ 5 คู่ จะสามารถแก้ไขได้ ชายดังกล่าวจะปล่อยภูมิที่ไม่ดีของน้องลงมา ซึ่งนายเข้ม ยังเปรยอีกว่าเจ้าที่ด้านบนแรงมาก ตนพยายามเพ่งก็มองเห็นได้เพียงลาง ๆ เท่านั้น
คลิป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว