
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบ Covid-19 ซึ่งมีปลัด 10 กระทรวง เข้าร่วมและนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน จะพิจารณามาตรการจ่ายเงินเพิ่มเติมให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยังตกหล่นไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ คนละ 1000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวม 3000 บาท เพื่อดูแลคนไทยทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างเท่าเทียม
ซึ่งการจ่ายเงินรอบนี้จะเป็นเงินที่จ่ายเพิ่มเติมจากสวัสดิการที่ได้รับประจำเดือน เช่น ค่าครองชีพ 200 – 300 บาท ค่ารถเมล์ 500 บาท ค่ารถทัวร์ 500 บาท

เบื้องต้น ประเมินว่ามีผู้ถือบัตรสวัสดิการที่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือถึง 2.4 ล้านคน แต่หลังจากตัดยอดการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มเปราะบางไปแล้ว น่าจะมีผู้เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือไม่ถึง 2 ล้านคน แต่เรื่องนี้ต้องให้ที่ประชุมเห็นชอบก่อน และรอเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการการใช้เงิน พรก.กู้เงิน และครม.เห็นชอบต่อไป โดยจะนำเงินจากพรก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทมาใช้
นอกจากนี้ ในการประชุมจะพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ลงทะเบียนโครงการเราไม่ทิ้งกันไม่สำเร็จอีก 1.7 ล้านคน ซึ่งจะพิจารณาลงรายละเอียดว่า แต่ละคนเป็นคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์หรือไม่ หากผ่านเกณฑ์และไม่เคยได้รับมาตรการช่วยเหลือใดมาก่อน ก็มีสิทธิรับเงิน 5 พันบาท เวลา 3 เดือน แต่ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์จะเสนอให้ใช้มาตรการอื่นช่วยเหลือต่อไป
ส่วนกลุ่มนิสิตนักศึกษาหรือเยาวชนที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี ยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือในตอนนี้ เพราะอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ขอให้ช่วยดูแลคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิดทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ซึ่งที่ผ่านมารัฐก็ได้ช่วยเหลือไปแล้วทั้งกลุ่มอาชีพอิสระ 15.1 ล้านคน เกษตรกร 7 – 8 ล้านคน กลุ่มเปราะบางอีก 13 ล้านคน
และถัดจากนี้ก็จะช่วยเหลือผู้ถือบัตรคนจน กลุ่มลงทะเบียนไม่สำเร็จ รวมถึงอาจมีกลุ่มชายขอบสังคมเพิ่มด้วย แต่การช่วยเหลือจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน หากใครถือบัตรคนจนแล้วได้รับเงิน 5000 บาทโครงการเราไม่ทิ้งกัน หรือเงินเช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว ก็ไม่มีสิทธิรับเงิน 1000 บาท 3 เดือนอีก