Sunday, June 7, 2020

กรมบังคับคดี แจงแล้ว กรณีค้างส่งโทรศัพท์ โดนยึดที่ 4 ไร่

สืบเนื่องจากกรณีนางสุรีพร ศรีทอง และครอบครัวชาวบ้านพรหมพิราม ร้องศูนย์ดำรงธรรมขอผู้ว่าราชการจ.พิษณุโลก ช่วยไกล่เกลี่ยในการซื้อที่ดิน 4 ไร่ ซึ่งเป็นมรดกครอบครัวคืนจากบุคคลที่ 3 ในราคายุติธรรม หลังถูกกรมบังคับคดียึดที่ดินขายทอดตลาด สาเหตุเพราะค้างผ่อนชำระค่าโทรศัพท์มือถือในปี 59 ราคา 27,000 บาท จนทางร้านขายมือถือฟ้องร้อง

นางสุรีพร ได้เปิดเผยว่า เมื่อปี 59 ได้ไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 30,000 กว่าบาท โดยผ่อนส่งได้ 2 เดือน จากนั้น ก็ขาดส่งเพราะไม่มีเงิน จนเวลาผ่านไปร้านมือถือดังกล่าวได้ฟ้องร้องและมีหนังสือมาที่บ้านพ่อ ที่อำเภอพรหมพิราม หลายรอบ แต่พ่อก็ไม่รู้ว่าหนังสืออะไร จนกระทั่ง เรื่องถึงกรมบังคับคดีและขายที่ดินที่ชื่อมีพ่อ พี่ชาย และตนเอง จำนวน 4 ไร่ ในราคากว่า 500,000 บาท เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้ในการซื้อมือถือ รวมดอกเบี้ยด้วยประมาณ 37,000 บาท
เดินทางเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม
ส่วนที่ดินนั้น ทางกรมบังคับคดีได้ขายไปให้บุคคลที่ 3 โดยที่ดินดังกล่าว เป็นที่มรดกครอบครัว ตนจึงอยากจะซื้อคืน แต่บุคคลที่ 3 คิดราคาไร่ละ 400,000 บาท จำนวน 4 ไร่ เป็นเงิน 1.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่สูง ตนก็ไม่ได้มีรายได้มากมายอะไร จึงเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ช่วยหาทางเจรจากับบุคคลที่ 3 ให้ขายราคาที่เป็นธรรม เพื่อจะได้มีกำลังซื้อคืนกลับมา
เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม
ซึ่งวันที่ 6 มิ.ย. 63 กรมบังคับคดี ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวอยู่ในการดำเนินการของสำนักงานบังคับคดี จ.พิษณุโลก โดยระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนการขายทอดตลาด มีผู้ซื้อได้ชำระราคาค่าซื้อทรัพย์ครบถ้วน และรับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์ไปจากเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว
โดยได้แจ้งให้นางสุรีพร และครอบครัว ทราบในทุกขั้นตอนตั้งแต่การยึดทรัพย์จนถึงการขายทอดตลาด ซึ่งทางนางสุรีพรและครอบครัว ไม่ได้โต้แย้งการบังคับคดีแต่อย่างใด เพียงแต่นางสุรีพรและครอบครัวมีความประสงค์ที่จะขอซื้อทรัพย์ดังกล่าวคืนจากผู้ซื้อเท่านั้น
ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมบังคับคดียินดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือในการนัดหมายผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว