Monday, July 20, 2020

ผวาทั้งโรงเรียน ด.ช.วัย14 พกมีดไถเงิน จับอกสาวนักศึกษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียลได้มีการแชร์โพสต์วิพากษ์วิจารณ์ ในลักษณะของการต่อว่าและเตือนให้ระวังบุคคลอันตราย ที่อาจจะก่อเหตุกับเด็กและสตรีและบุคคลทั่วไป เนื่องจาก บุคคลดังกล่าวพกพาอาวุธมีด ในพื้นที่เขตตำบลวังชมภู อ.เมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งหนังสือดังกล่าวมีข้อความระบุว่า

เรื่องรายงานและเฝ้าระวังผู้ที่มีพฤติกรรมอันตราย เนื่องด้วย นายเอ นามสมมุติ เป็นบุคคลอันตรๅยเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนร.คณะครูและบุคคลทั่วไปซึ่งในวันที่ 14 กรกฎาคม 63 บุคคลดังกล่าวได้เข้ามาทำพฤติกรรมที่เป็นอันตรๅยเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักเรียนและคณะครู คือได้พกพาอาวุธของมีคม ข่มขู่นักเรียน
ส่งผลให้เกิดความตกใจและหนึ่งในคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานดังกล่าว ได้มีการประชุม และมีมติให้โรงเรียนจัดทำหนังสือแจ้งหน่วยงานและผู้มีอำนาจทางการปกครอง ในเขตต.วังชมภู เพื่อขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัยของเด็กชายคนดังกล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบครูประจำชั้นที่เคยสอน (ด.ช.เอ) และได้เปิดเผย ถึงพฤติกรรมเด็กคนดังกล่าวว่า เรื่องการเรียนการอ่านถือว่า อยู่ในเกณฑ์ดี กระทั่ง เด็กชายคนดังกล่าวตอนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ช่วงปลายเทอมได้เกิดอุบัติเหตุและพักรักษาตัว จากนั้น นายเอ กลับมาเรียนพฤติกรรมก็เริ่มเปลี่ยนไป เรื่องเรียนไม่ค่อยสนใจ เวลาเรียนไม่ค่อยอยู่ห้องจะออกไปก่อกวนเพื่อนตามห้องต่างๆ
และพฤติกรรมที่หนักไปกว่านั้น ช่วงเด็กชายคนดังกล่าว อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้รุนแรงขึ้น โดยมีพฤติกรรมไปจับก้นและจับหน้าอกผู้ปกครอง ที่เข้าไปส่งลูกหลานในโรงเรียน อีกทั้ง ยังมีพฤติกรรมในการพูดส่อเสียดไปทางเรื่องเพศ โดยเฉพาะกับผู้หญิง
และเมื่อนายเอเริ่มโตขึ้น พฤติกรรมยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น ครั้งสุดท้ายคือจับหน้าอกผู้ปกครองและนักศึกษาฝึกสอน และอีกพฤติกรรมก็ คือ การแสดงออกเหมือนไม่มีใครรัก พร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง จะกระโดดให้รถชน ซึ่งทำให้ครูที่ได้ยินตกใจ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ผ่านไป และคิดว่าคงเป็นเพียงคำขู่ของเด็กเท่านั้น
บางครั้งจะเที่ยวเดินไปขอเงินกับครูถ้าหากไม่ได้ก็จะมีการบ่นรำพึงรำพันว่าไม่มีใครรัก ซึ่งปัจจุบันเด็กคนดังกล่าว ได้ย้ายออกจากโรงเรียนไปตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หรือประมาณ 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันเด็กคนดังกล่าวอายุประมาณ 14 ปี
ส่วนพฤติกรรมที่ส่อไปในความรุนแรงอีกอย่างก็คือ ปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าได้ย้ายออกไปอยู่ที่ไหน ซึ่งเด็กชายคนดังกล่าว ก็ยังแวะเวียนเข้ามาที่โรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง จนต้องว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งเด็กๆในโรงเรียนก็จะจับนำตัวออกจากโรงเรียนไป ซึ่งครั้งสุดท้าย ได้ยินว่าที่เด็กคนดังกล่าวเข้ามาในโรงเรียนและมีมีดมาด้วย ซึ่งคนอยู่ในโรงเรียนจึงได้ลงไลน์กลุ่ม และเตือนกันอยู่ภายในโรงเรียนเท่านั้น
ทางโรงเรียนและกรรมการโรงเรียนผู้นำชุมชน จนท.ตำรวจ ได้มีการประชุมและมีมติออกหนังสือเตือนออกไปเนื่องจากเกิดความเป็นห่วงด้านความปลอดภัยของบุตรหลานโดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งเกรงว่าเด็กคนดังกล่าวจะไปก่อเหตุขึ้นมากอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการโพสต์หนังสือฉบับดังกล่าวลงไปในโลกโซเชียลปรากฎว่า มีการแชร์ออกไปและพูดถึงอย่างมาก ซึ่งส่วนมากได้กล่าวถึงพฤติกรรมของเด็กคนดังกล่าว เช่นชอบขโมยเงินและสิ่งของ ชอบไปขอเงินกับทุกคนที่พบเห็น หากไม่ให้ก็จะแสดงอาการไม่พอใจ
รวมทั้งมีพฤติกรรมในการคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการส่งสายตา การใช้คำพูด รวมทั้งลักษณะท่าทางต่างๆ จึงอย่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลหรือนำไปอบรมสั่งสอนก่อนที่เด็กคนดังกล่าวจะมีพฤติกรรมที่รุนแรงไปมากกว่านี้.