Tuesday, July 28, 2020

สาวิตรี ตอกกลับแรง หลังลุงพล ไม่กินน้ำสาบาน

สำหรับความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ถึงแม้ว่าเวลาผ่านไปนานกว่า 70 วันแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถหาตัวคนร้ายตัวจริงได้สำเร็จ เพราะคดีนี้มีความซับซ้อนและต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศตร์

ซึ่งทางด้านนางสาวิตรี เเม่ของน้องชมพู่ ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อลุงพลตอนนี้ว่า ตอนนี้ตนยังไม่ขอเจอหน้าลุงพล เพราะตอนนี้ประเด็นปัญหาของตนและลุงพลกำลังเป็นประเด็นร้อน ทุกคนกำลังร้อนเพราะทะเลาะกัน ตนไม่พร้อมที่จะเจอลุงพลตอนนี้ เจอกันตอนนี้ ตนกลัวว่าจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกัน จนเรื่องราวบานปลายมากกว่าเดิม
ล่าสุด นางสมพร (ป้าแต๋นป้าของชมพู่) กล่าวว่า วันนี้ตาชาญมาที่บ้านตนมาบอกเรื่องการสาบาน ซึ่งบอกว่า นัดกันช่วงวันอังคารที่จะถึงนี้ โดยพ่อบอกว่าหากตนไม่อยากไปก็ไม่มีปัญหา ตนก็ยืนยันว่า สามารถไปได้พร้อมสาบาน แต่จะไม่ดื่มน้ำสาบาน ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ติดขัดอะไร
โดยข่าวที่ออกไปว่า แม่ของลุงพลไม่ทราบเรื่องสาบาน จะดื่มน้ำหรือไม่ก็ไม่ได้กังวล ตนอยากชี้แจงว่าคนที่โทรมาหานั้น เป็นญาติฝ่ายลุงพล ซึ่งเป็นอา (น้องพ่อ) ติดต่อมาบอกว่าไม่สบายใจให้ดื่มน้ำสาบานที่นี่ รวมทั้งปู่ก็เคยบอกตอนที่มาที่บ้านตน โดยบอกว่า กลัวว่าจะมีสิ่งที่เรามองไม่เห็นอยู่ในน้ำ จึงไม่อยากให้ดื่ม
ตนไม่แปลกใจที่แม่ลุงพลออกมาพูดแบบนั้น เพราะแม่ลุงพลเป็นคนใจดีไม่ได้คิดมากอะไร แต่ฝ่ายพ่อลุงพล อาลุงจะมีความคิดเรื่องพวกนี้อยู่ ซึ่งหากใครจะครหา ตนไม่คิดอะไร เพราะหากครหาแล้วทำให้พ่อแม่ฝ่ายลุงพลสบายตนเองก็จะทำ เพราะฝ่ายนี้ครอบครัวตัวเองก็ไม่ค่อยทำให้สบายใจสักเท่าไร ตนขอพูดตรงๆ ดังนั้น ต้องเห็นใจฝั่งลุงพลบ้าง หากผู้ใหญ่ว่า มาแบบนั้นก็ต้องฟังบ้าง จึงจะไม่ดื่มน้ำสาบาน ซึ่งตาชาญยังบอกว่าตนไม่ไปก็ได้ ตนก็บอกไม่กินน้ำ พ่อก็ไม่ติดขัดอะไร ป้าแต๋นกล่าว
ดังนั้น ยืนยันตรงนี้ว่า จะไปสาบานแต่ไม่ดื่มน้ำ จะไม่มีการเอาพระอะไรไปแกว่ง หากใครจะพูดอะไรก็ปล่อยเข้าพูดไป มีทางเดียวที่จะดื่มน้ำสาบานคือ ไปวัดพระแก้ว เพราะเชื่อว่าไม่มีใครทำอะไรเราได้ ตนขอเลือกความสบายใจของครอบครัว มากกว่าควๅมเชื่อที่จะดื่มน้ำ หรือไม่ดื่ม เพราะการสาบๅน บางทีคนสาบานจำนวนมากไม่ได้ปกปิดความชั่วของตัวเองได้ แต่เป็นแค่ความสบายใจ.